M3 submachine gun ถือเป็น ปืนกลเบา ของกองทหารราบสหรัฐฯ ที่มีบทบาทรากฐานในการพัฒนาไปสู่ปืนกลรุ่นอื่น ๆ มากมาย
M3 submachine gun อีกหนึ่งสุดยอดปืนกลเบาของอเมริกา
ปืนM3 submachine gun เป็น อาวุธปืน ประเภทหนึ่งที่มีขนาดของลำกล้อง 8 นิ้วรองรับกระสุนได้เพียง.45 ACP ประเภทเดียวเท่านั้น โดย ปืนกลเบา ชนิดนี้ถูกนำมาประจำการที่กองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 1942 ในชื่อเรียกประจำกองรบว่า United States Submachine Gun ซึ่ง M3 ถือเป็นปืนที่มีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างคล้ายกับทอมป์สันที่ทำงานด้วยระบบโบลแบ็ค แม้ .45 จะมีความเสถียรและความแม่นยำในการยิงที่น้อยกว่า แต่เจ้า ปืนM3 นั้นมีราคาที่ถูกและเบากว่ามากรวมถึงยังมีจำนวนการผลิตต่อปีที่สูงกว่าด้วย ผู้คนจึงนิยมหันมาใช้ปืนตัวนี้กันอย่างแพร่หลาย จนทางกองทัพได้เริ่มนำมาใช้ทดแทนปืนเก่าในปี 1944 ต่อมาพวกเขาได้นำปืนชนิดนี้มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และได้ทำการตั้งชื่อใหม่เป็น M3A1 ก่อนจะนำไปใช้อย่างจริงจังใน korean war สำหรับส่วนประกอบหลักของ ปืนM3 จะประกอบไปด้วยตลับหมึกที่รองรับกระสุนชนิด .45 ACP ทำงานด้วยระบบโบลต์เปิดที่จะทำงานก็ต่อเมื่อกดปุ่มสลักออก ส่วนอัตราการลั่นไกอยู่ที่ 450 รอบต่อนาที และความเร็วของปากกระบอกปืนสูงสุดอยู่ประมาณ 900 ฟุตต่อวินาที
ปืนM3 submachine gun ต้นแบบของปืนกลเบาหลายชนิด
ปืนกลเบาM3 submachine gun ได้รับการออกแบบโดยกองทัพบกสหรัฐฯ ในปี 1941 ด้วยวัตถุประสงค์หลักในการสร้างปืนชนิดหนึ่งขึ้นมาเพื่อมาทดแทนปืน MP 40 ของเยอรมันที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อเทียบกับ อาวุธสงคราม ชนิดอื่น ๆ ในประเภทเดียวกัน ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำการวิจัยและค้นคว้าอยู่หลายเดือนจนได้แนวทางในการสร้างปืนชนิดใหม่ขึ้น ที่มีความสามารถในการยิ่งมากกว่า MP 40 มีขนาดลำกล้องที่ใหญ่กว่าและยังสามารถเลือกยิงแบบกึ่งอัตโนมัติได้ จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถสร้างอาวุธต้นแบบของM3 ออกมาได้สำเร็จ ที่ทำมาจากโลหะแผ่นขนาดเล็กนำมาประกอบรวมกันทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำมาก และยังสามารถประกอบเป็นจำนวนภายในเวลาที่น้อยอีกด้วย จากผลทดสอบการยิงพบว่า ปืนM3 ลั่นไกได้ 500 นัดต่อนาที และความแม่นยำในการทำลายเป้าหมายอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์ด้วยระยะหวังผลประมาณ 50 หลา ถ้าหากเทียบกับ M1928A1 และ Thompson ประสิทธิภาพของปืนนั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย
ปืนM3 submachine gun ถูกนำมาพัฒนาเป็น M3A1 ในปี 1944
ปืนกลM3 submachine gun ได้ถูกนำมาดัดแปลงเป็น M3A1 ในปี 1944 โดยนำชิ้นส่วนประกอบทั้งหมดจากM3 ย้ายมาติดตั้งในปืนตัวใหม่ยกเว้นโบลต์กับตัวรับสัญญานการลั่นไก นอกจากนี้ทางกองทัพสหรัฐฯ ได้ทำการปรับปรุง light machine gun อยู่หลายส่วนด้วยกันดังนี้
– มีการแก้ไขในส่วนของข้อเหวียงคันโยกที่มักจะเกิดการขัดข้องอยู่บ่อยครั้ง และนำสล็อตง้างเข้ามาติดตั้งในส่วนบนสุด ทำให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในการง้างคันโยกที่ทำควบคู่ไปพร้อมกับการดึงโบลต์
– มีการนำที่ล็อกนิรภัยย้ายไปยังส่วนท้ายกระบอกปืน เพื่อความสะดวกในการกดปุ่มใช้งานเมื่อต้องการเข้าสู่โหมดเซฟตี้
– มีการติดตั้งคันโยกในบริเวณวงล้อลำกล้องที่เข้ามาช่วยในการปลดลำกล้องที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
สนามยิงปืนพัทยาBATTLEMOUSE PATTAYA สนามยิงปืนที่ทันสมัยที่สุดในพัทยา
สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามโกคาร์ท สนามแข่งรถ มาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย
