M1 Abrams กลายเป็น รถถังประจัญบาน ที่สำคัญของกองรบแนวหน้าสหรัฐฯ ที่มีทั้งระบบป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดและอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชนิด
M1 Abrams รถถังรุ่นที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา
รถถังM1 Abrams ถือเป็น รถถังประจัญบาน รุ่นที่ 3 ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทสเตลแลนติส หนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอเมริกามีสำนักงานแม่ตั้งอยู่ที่ออเบิร์นฮิลส์ สำหรับ รถถังต่อสู้ ชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อตามนายพลของกองทัพที่มีหน้าที่ในการบัญชาการรบใน สงครามเวียดนาม อย่างCreighton Williams Abrams Jr. วัตถุประสงค์หลักในการสร้างครั้งนี้ มาจากการที่ทางกองทัพต้องการArmored warfare ชนิดใหม่ที่ทันสมัยและทรงพลังกว่าเดิมมาประจำการภายในกองรบ โดยล่าสุดเอบรามส์กลายเป็นสมาชิกของครอบครัวสหรัฐฯ ที่มีน้ำหนักมากที่สุดกว่า 68 ตัน ภายในประกอบไปด้วยชิ้นส่วนเทคโนโลยีสมัยใหม่หลายรายการอาทิเช่น Honeywell AGT1500 เครื่องยนต์กังหันแก๊ส, เกราะคอมโพสิตที่สร้างขึ้นจากการผสมผสานระหว่างโลหะกับเซรามิก และชุดเกราะช็อบแฮมชนิดทนทานที่สุด นอกจากนี้ในส่วนของอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เอบรามส์ก็ใส่มาแบบไม่ยั้งโดยมี ปืนใหญ่ Royal Ordnance L7, ปืน Rheinmetall Rh-120 และระบบป้องกันตัวอัตโนมัติ NBC ที่คอยช่วยคุมกันหากมีศัตรูเข้ามาในระยะประชิด
สหรัฐฯ จับมือกับเยอรมันในการพัฒนา รถถังM1 Abrams
รถถังM1 Abrams ได้รับการออกแบบในปี 1960 ด้วยการร่วมมือของสองกองทัพใหญ่อย่างสหรัฐฯ และเยอรมัน ซึ่งพวกเขาทั้งสองฝ่ายต้องการที่จะนำ armored tank รุ่นใหม่มาแทนที่ตัวเก่าอย่าง M60 กับ ค่ายเสือดาวที่ 1 ที่ประจำการอยู่ในกองทัพบกมาอย่างยาวนาน โดยโจทย์หลักที่พวกเขาต้องการสร้างก็คือ ต้องเป็นรถถังที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มาพร้อมกับพลังอำนาจในการทำลายล้างขั้นสูงสุด ที่สำคัญจะต้องอยู่เหนือกว่า T-62 ของโซเวียตในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานหรืออาวุธที่ติดตั้งบนยานเกราะ MBT-70 ได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาประกอบกันจนกลายมาเป็นเอบรามส์ที่มีระบบกันสะเทือนแบบ Hydropneumatic ช่วยเพิ่มการขับขี่ที่สะดวกไม่ว่าภูมิประเทศจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม และสามารถปรับความสูง-ต่ำของตัวรถได้ตามที่ต้องการ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 1500 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีอาวุธระยะไกลหลักอย่าง MGM-51 Shillelagh ขีปนาวุธ ระดับแรงสูง และปืนใหญ่ขนาด 152 มม. จากส่วนประกอบเพิ่มเติมที่ติดตั้งบนรถถังทำให้น้ำหนักทั้งหมดของตัวรถเพิ่มขึ้นถึง 3 ตัน เช่นเดียวกันกับงบประมาณที่บานปลายไปหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ
บทบาทสำคัญของ รถถังM1 Abrams ในช่วงสงครามอ่าว
รถถังM1 Abrams ได้ออกมาเผยโฉมอย่างเป็นทางการในปี 1975 แต่ก็ยังไม่เคยลงสนามรบจริง ๆ เลย จนกระทั่งในปี 1991 เกิด สงครามอ่าว ขึ้นโดยมีสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหลักในสงครามครั้งนี้ร่วมกับประเทศต่าง ๆ อีกกว่า 35 ชาติ ในช่วงระหว่างสงครามกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นทางกองทัพได้ทำการส่งเอบรามส์จำนวน 1,848 คันไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อทำการประกาศสงครามกับคู่ต่อสู้อย่างเต็มตัว โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการปลดปล่อยคูเวตให้เป็นอิสระจากเนื้อมือผู้ก่อการร้าย ซึ่งแม้ฝ่ายศัตรูจะมีรถถัง T-54, T-55 และ T-72 ที่ถูกขนส่งมาจากโซเวียตจำนวนมาก แต่มันก็ไม่สามารถต่อกรกับเอบรามส์ที่มีทั้งคุณสมบัติและพลังการทำล้ายล้างที่สูงกว่าได้เลย
สนามยิงปืนพัทยาBATTLEMOUSE PATTAYA สนามยิงปืนที่ทันสมัยที่สุดในพัทยา
สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามโกคาร์ท สนามแข่งรถ มาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย
