FN F2000 อาวุธประจำกายของกองทัพเบลเยียม

FN F2000 ถือเป็นอีกหนึ่ง ปืนไรเฟิล ที่ได้รับความยอดนิยมสูงสุด เพราะว่ามันสามารถใช้งานได้ง่ายรวดเร็วแถมยังคล่องตัวเวลาใช้งานอีกด้วย

FN F2000 ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติสัญชาติเบลเยียม

FN F2000

FN F2000เป็นปืนไรเฟิลจู่โจม กึ่งอัตโนมัติมาพร้อมกับตัวลำกล้องยาวที่มีด้ามจับกันสะเทือนอยู่ด้านหน้า รองรับกระสุนขนาด 5.56×45 มม. จำนวน 10-30 นัด อัตราความเร็วของการยิงอยู่ที่ 850 รอบต่อนาที ระยะหวังผลไกลสุดอยู่ที่ 500 เมตร โดยแต่ละรุ่นมีน้ำหนักรวม ๆ อยู่ที่ 3.44-3.65 กิโลกรัม ผลิตขึ้นโดยบริษัทชั้นนำของเบลเยียมอย่าง Fabrique Nationale Herstal ก่อนจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2001 ที่งานแสดงการขายอาวุธและเทคโนโลยีการป้องกันที่เมืองอาบูดาบีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่เมื่อในปี 2019 ที่ผ่านมา อาวุธปืน ชนิดนี้ได้ถูกนำออกจากระบบ FN ของหลายประเทศรวมถึงมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาด้วย เนื่องจากตัวปืนมีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า 20 ปีทำให้หาอุปกรณ์เสริมหรืออะไหล่ยาก แต่อย่างไรก็ตาม อาวุธสงคราม ตัวนี้ก็มีลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนใครตรงที่ส่วนประกอบหลักสามารถแบ่งแยกออกมาได้ และยังสามารถปรับรูปแบบการยิงได้หลากหลายด้วยระบบแบบสลักเกลียวปิด จนเป็นที่นิยมอย่างมากในอดีตจนถึงปัจจุบัน

คุณสมบัติพิเศษของFN F2000 

FN F2000

FN F2000ถือเป็นปืนไรเฟิล ของ กองทัพเบลเยียม ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะแบบกึ่งอัตโนมัติด้วยระบบการทำงานแบบแก๊ส และยังมีระบบความปลอดภัยสูงในการใช้งานอีกทั้งกลไกการลั่นของกระสุนก็ถือว่าดีเยี่ยม นอกจากนี้ตัวปืนได้ติดตั้งปุ่มสลับระบบการใช้งานมาด้วยที่สามารถเลือกปรับได้ถึง 3 หมวดได้แก่ S คือระบบปลอดภัยที่ไม่สามารถลั่นไกปืนได้, โหมด 1 รูปแบบกึ่งอัตโนมัติ และ A การยิงอย่างเต็มระบบหรือฟูลออโต้ ในส่วนของวัสดุที่ใช้ในการประกอบตัวปืนทำมาจากโครเมียม ที่ช่วยในการรักษาความสั่นสะเทือนทำให้รักษาความคงที่และแม่นยำไว้ได้ นอกจากนี้ตัวลำกล้องยังถูกออกแบบมาให้สามารถป้องกันระเบิดแฟลชได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องแสบตาขณะถูกระเบิด โดยทั่วไปแล้วอายุการใช้งานของF2000 จะอยู่ที่ประมาณ 20,000 นัดหรือราว ๆ 666 รอบกระสุน ซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างปืนชนิดนี้ขึ้นมาจาก P90 ปืนที่มีความมั่นคงสูงมากเหมาะสำหรับการใช้ป้องกันตัวมากกว่าการนำมาใช้ใน สงคราม  

เครื่องยิงลูกระเบิดอุปกรณ์เสริมสุดอันตรายของFN F2000 

FN F2000ได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นด้วยการติดตั้งเครื่องยิง ลูกระเบิด GL1 ขนาด 40 มม. รองรับลูกกระสุนความเร็วต่ำขนาด 40×46 มม.ที่มีน้ำหนักเบากว่า 1 กิโลกรัม โดยวิธีการยิงก็จะคล้าย ๆ กับ ปืนลูกซอง คือการปั๊มแบบย้อนกลับและใส่กระสุนได้ทีละนัดผ่านทางปากกระบอกปืน ซึ่งทริกเกอร์ของตัวยิงระเบิดจะติดตั้งไว้ใกล้ ๆ กับไกปืน เพื่อเวลาในการใช้งานจะได้สะดวกไม่ต้องยกมือออกจากท่ายิง โดยในปัจจุบันเครื่องยิงลูกระเบิดได้ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งระบบควบคุมการยิงหรือเรียกว่า FCS ที่ช่วยในการยิงให้คล่องตัวมากกว่าเดิม ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Noptel ของฟินแลนด์

ปืนใหญ่ อีกหนึ่งอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูงสุด

อ่านบทความอื่น ๆ >> คาเฟ่พัทยา รับปี 2023 จุดเช็คอินสุดชิค รับปีกระต่ายทอง