Bazooka จรวดนําวิถีที่ถูกออกแบบเพื่อกำจัดรถถังโดยเฉพาะ

Bazooka อีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของ กองทัพสหรัฐฯ จากระบบการทำงานที่แม่นยำประกอบกับการพกพาสะดวก ทำให้มักจะถูกใช้งานในหลากหลายสถานการณ์

Bazooka เครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังสัญชาติอเมริกา

Bazooka

Bazookaถือเป็นอีกหนึ่ง เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง แบบพกพาของกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่ถูกนำไปใช้งานในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยบาซูก้าเป็นเทคโนโลยีทางอาวุธชนิดใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับ RPG ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก สำหรับหัวจรวด grenade จะมีลักษณะแข็งกว่าปกติทำให้สามารถเจาะทะลุผ่านเกราะของ รถถัง หรือทำลายที่กำบังของฝ่ายศัตรูได้ โดยบาซูก้าถูกคิดค้นและพัฒนาในช่วงปี 1930 โดยนักแสดงชื่อดังอย่าง Bob Burns ซึ่งในช่วงสงครามโลกปืนชนิดนี้ได้ถูกทางฝั่งของ กองทัพเยอรมัน ยึดไปหลายกระบอก ก่อนทางกองทัพจะทำการพัฒนาให้ส่วนปลายกระบอกปืนมีความกว้างเพิ่มขึ้นเป็น 8.8 ซม จนถูกนำมาใช้ตอบโต้กลับอย่างแพร่หลาย โดยในช่วงใกล้จบสงครามอันยาวนานญี่ปุ่นได้คิดค้นอาวุธที่คล้ายกับบาซูก้าขึ้นมีชื่อว่า Type 4 70 mm AT ซึ่งมีลักษณะเด่นกว่าของเยอรมันตรงที่หัวรบของจรวดมีการออกแบบที่แหลมกว่าทำให้พลังในการทำลายล้างสูงขึ้น และมีการติดตั้งศูนย์เล็งเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิง

ต้นกำเนิดของBazooka

Bazooka

Bazooka เป็นแนวคิดของ Bob Burns ก่อนจะถูกนำไปพัฒนาต่อโดย โรเบิร์ต เอช. ก็อดดาร์ด นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยหลังจากที่เจ้าตัวศึกษาอยู่นานหลายปีจนในที่สุด เขาก็สามารถออกแบบจรวดรุ่นทดลองแบบหลอดมาลองใช้ในกองทัพ ซึ่งผลรับที่ได้ถือว่าดีเกินขาดมันสามารถเจาะทะลุผ่านสิ่งกีดขวางทุกอย่างได้แบบง่ายได้ จนในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1918 เขาประสบความสำเร็จในการโชว์ศักยภาพของจรวดให้เหล่า กองทัพบก ได้เห็น US Army Signal Corps จนในเวลาต่อมาก็อดดาร์ดได้ถูกลงนามให้เป็นนักฟิสิกส์ทางทหารที่มีผลงานดีที่สุด จนทำให้เขามีเงินทุนพอที่จะศึกษาพัฒนาต่อยอดจรวดของเขาต่อ แต่ด้วยสถานการณ์วัณโรคที่กำลังระบาดหนักทำให้เขาไม่สามารถดำเนินงานต่อจนเขาล้มเลิกไปในที่สุด ต่อมาในปี 1940 คณะกรรมการวิจัยด้านกลาโหมแห่งชาติได้นำผลงาน จรวดนําวิถี ต่อสู้รถถัง ของก็อดดาร์ดไปพัฒนาต่อ จนสามารถนำมาใช้ในกองทัพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ประวัติศาสตร์ของBazooka ในช่วงสงครามเวียดนาม

Bazookaถูกนำกลับมาใช้ในช่วงต้นสงครามเวียดนามโดย กองทัพบกสหรัฐ ก่อนที่จะถูกปลดประจำการไปในปี 1960 เนื่องจากในตอนนั้นได้มีอาวุธชนิดใหม่ที่มีพลังการทำลายล้างสูงกว่าเดิมอย่าง m67 recoilless rifle ขนาด 90 มม. และ M72 LAW ปืนต่อต้านรถถังขนาด 66 มม. นอกจากนี้ทางกองทัพจะเน้นใช้งานในส่วนของอาวุธชนิดอื่นหรือรถถังสมัยใหม่มากกว่า ซึ่งทางกองทัพเวียดนามก็ยังมีการใช้งานบาซูก้าอยู่ แต่พวกเขาได้นำมาพัฒนาในรูปแบบของตนเองโดยบริษัท Tran Dai Nghia หลังจากการพัฒนาอันยาวนานอยู่หลายปี บาซูก้าสัญชาติเวียดนามก็ได้มีการนำออกมาทดสอบด้วยการต่อต้านฝรั่งเศส ซึ่งผลที่ได้รับก็ถือว่าดีเกินขาดมันสามารถทำลายรถถัง Type 51 ที่เวียดกงไปได้หลายคันในปี 1964

อ่านบทความอื่น ๆ >> MG 3 สุดยอดเทคโนโลยีของเยอรมัน

รถที่แรงที่สุดในโลก 2022 อัปเดตล่าสุด