8 อันดับ เครื่องพ่นไฟ แบบพกพาที่ถูกใช้ในศึกสงคราม 

เครื่องพ่นไฟ


เครื่องพ่นไฟ (BURNER) เป็นเครื่องกำเนิดความร้อนที่นำเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ มอเตอร์ ปั้มน้ำมัน และหัวฉีด มาประกอบรวมกันจนกลายเป็นเครื่องพ่นไฟชนิดใช้งานง่ายเพื่อรองรับกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้ในทั่วโลก โดยใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งนี้ขอนำเสนอเครื่องพ่นไฟแบบพกพาจากทั่วโลก 



8 อันดับเครื่องพ่นไฟแบบพกพาที่ใช้ในสงคราม 

เครื่องพ่นไฟ


1.KLEINFLAMMENWERFER (1911)
เครื่องพ่นไฟที่ถูกนำเสนอในปี ค.ศ.1911 โดยจักรวรรดิเยอรมัน ถือเป็นเครื่องพ่นไฟเยอรมันแบบพกพาเครื่องแรก รู้จักในฐานะ “KLEIF” เชื้อเพลิงถูกเก็บไว้ในเป้สะพายหลังทรงกระบอกขนาดใหญ่ พร้อมบรรจุแรงดันสูงติดอยู่ข้าง ๆ เครื่องพ่นไฟ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์จุดระเบิดที่หัวฉีด จรวดขับดันบังคับเชื้อเพลิงผ่านท่อและออกจากหัวฉีดด้วย 

เครื่องพ่นไฟ


2.FLAMMENWERFER M.16 (1916)
เครื่องพ่นไฟที่ถูกนำเสนอในปี ค.ศ.1916 โดยจักรวรรดิเยอรมัน เป็นเครื่องพ่นไฟแบบเป้สะพายหลังที่ใช้โดยทหารราบเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อล้างสนามเพลาะและสังหารทหารปืนไรเฟิล ซึ่งใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ.1915 ที่แวร์เดิง และในปี ค.ศ.1918 ในการต่อสู้ที่ป่าอาร์กอน ประเทศฝรั่งเศส 

เครื่องพ่นไฟ


3.WECHSELAPPARAT (1917)
เยอรมันได้แนะนำเครื่องพ่นไฟแบบพกพาขนาดเล็กในปี ค.ศ.1917 เพื่อแทนที่ KLEIF-KLEINFLAMMENWERFER ในรุ่นก่อนหน้า มีกล่องเก็บเชื้อเพลิงแบบเป้สะพายหลังรูปโดนัทที่มีถังพ่นอยู่ตรงกลาง โดยการออกแบบนี้ก็ได้รับการปรับปรุงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายมาเป็นโมเดล 40 และ 41 โดยใช้โครงสร้างทรงกระบอก และรูปแบบโดนัทถูกคัดลอกโดยอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 


4.TYPE 93 AND 100 FLAMETHROWERS (1933)
เครื่องพ่นไฟไทป์ 93 และ 100 ถูกนำเสนอในปี ค.ศ.1933 ถือเป็นเครื่องพ่นไฟที่ถูกใช้โดยกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น และกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ของ SNLF ระหว่างสงครามชิโน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 รวมถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องพ่นไฟที่ถูกนำมาใช้ในสงครามต่าง ๆ โดยเฉพาะ 


5.FLAMMENWERFER 35 (1935)
เครื่องพ่นไฟเยอรมันแบบคนเดียวที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกพ่นออกไปในร่องลึกและอาคาร มีพิสัย 25 เมตร น้ำหนักอยู่ที่ 35.8 กิโลกรัม และเก็บน้ำมันได้ 11.8 ลิตร โดยถูกพัฒนาต่อจาก FLAMMENWERFER M.16 เครื่องพ่นไฟที่ทหารราบเยอรมันใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 


6.LANCIAFIAMME MODELLO 35 (1935)
เครื่องพ่นไฟแบบเป้สะพายหลังของอิตาลีที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกนำเสนอในปี ค.ศ.1935 โดยตัวเครื่องนั้นได้มีการบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง 12 ลิตร ในถังทรงกระบอกจำนวน 2 ถัง และมีน้ำหนัก 27 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาและใช้งานได้อย่างสะดวก 


7.ROKS FLAMETHROWERS (1935)
เครื่องพ่นไฟแบบพกพาที่สหภาพโซเวียตนำมาใช้สงครามโลกครั้งที่ 2 โดย ROKS 2 ออกแบบมาเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ มีลักษณะคล้ายเป้สะพายหลังปกติ และหัวฉีดดูเหมือนปืนไรเฟิล ส่วน ROKS 3 ออกแบบอย่างเรียบง่าย โดยมีถังเชื้อเพลิงทรงกระบอกบรรจุประมาณ 9 ลิตร และมีพิสัยประมาณ 45 เมตร 

8.HOME GUARD FLAMETHROWER (1940)
เครื่องพ่นไฟที่ถูกนำเสนอในปี ค.ศ.1940 โดยจะมีถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ติดตั้งอยู่ในรถเข็นที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งน้ำหนักของรถเข็นนั้นก็เรียกได้ว่ามีความเบามากพอที่จะลากไปตามถนนและอาจข้ามทุ่งไปยังจุดที่ต้องการได้ และในส่วนของปั๊มที่สูบด้วยมือนั้นจะทำให้เปลวไฟพุ่งไกลถึง 60 ฟุต หรือระยะ 18 เมตรเลยทีเดียว

อ่านบทความอื่น ๆ >> 5 เรือพิฆาตที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก 2022

 

สนับสนุนโดย : 

https://sa-game.bet/สมัครบาคาร่า888 เล่นผ่านแอปพลิเคชัน Casino888 ได้แบบเรียลไทม์ทั้งสล็อตออนไลน์ เกมไพ่โป๊กเกอร์หรือแบล็คแจ็ค เกมออนไลน์ได้เงินอย่างเกมยิงปลา เกมบันไดนำโชค และบาคาร่า888 ที่ฮิตที่สุดของเราด้วย