เคยสงสัยกันไหมว่า ขนาดกระสุน มีกี่ขนาด ใช้อย่างไร และแต่ละขนาดมีประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไปอย่างไร สำหรับกระสุนปืนนั้น จะเป็นตัวกำหนดความเร็วและความแรงของกระบอกปืน โดยกระสุนที่มีความเร็ว แรง และมีแรงปะทะสูง ก็จะสร้างความเสียหายได้มากกว่า กระสุนมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ กระสุนชนวนกลางและกระสุนชนวนริม ซึ่งมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- กระสุนชนวนกลาง เป็นกระสุนปืน ที่ทำมาจากโลหะแข็ง เช่น เหล็กกล้า หรือทองเหลือง นิยมใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการจุดระเบิด อีกทั้งยังมีความเร็ว ความแรง และแรงปะทะมากกว่ากระสุนชนวนริม
- กระสุนชนวนริม เป็นกระสุนปืนที่ทำมาจากโลหะอ่อน เช่น สังกะสี ทองแดง นิยมใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการจุดระเบิดเช่นเดียวกับกระสุนชนวนกลาง แต่มีความเร็ว ความแรง และแรงปะทะ น้อยกว่า และดินปืนจะอยู่บริเวณขอบกระสุน
สำหรับขนาดกระสุนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันแบบ เรียงขนาดกระสุน มีอยู่ด้วยกัน 5 ขนาด ดังนี้
- ขนาดกระสุน 9 มม. เป็นกระสุนแม็กกาซีน ที่ได้รับความนิยมสูง ลูกมีขนาดพอดี ราคาไม่แพง
- กระสุน .22 จะมีทั้งแบบที่ใส่ปืนยาว เป็น กระสุน .22 LR และ .22 แม็กนั่ม มักจะเป็นลูกโม่ และมี กระสุน .22 แม็กกาซีน
- กระสุน .38 ส่วนมากจะเป็นลูกโม่ คนนิยมใช้ เนื่องจากหาง่ายและราคาถูก
- กระสุน .357 MAGNUM
- กระสุน .380 และ กระสุน .38 SPECIAL ส่วนมากจะเป็นแม็กกาซีน แต่ราคาสูงและหาซื้อได้ยาก
เปรียบเทียบระหว่าง ขนาดกระสุน .380 กับ 9 มม. แบบไหนแรงกว่ากัน
หลายคนลังเลระหว่าง ขนาดกระสุน .380 กับ 9 มม. เพราะขนาดกระสุนทั้ง 2 ขนาดนี้ มีประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกัน ทั้งในเรื่องของความเร็ว ความแรง การทำลายล้าง รวมไปถึงความนิยมและราคาอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบ ขนาดกระสุน .380 กับ 9 มม. ชัดๆ จะได้ดังนี้
- ขนาดกระสุน .380
- ประเภทกระสุน : แม็กกาซีน
- ความเร็ว : 850-950 FT/S
- ราคา : มีราคาสูง หาซื้อได้ยาก
- ขนาดกระสุน 9 มม.
- ประเภทกระสุน : แม็กกาซีน
- ความเร็ว : 1,150-1,250 FT/S
- ราคา : มีราคาถูก หาซื้อได้ง่าย
เมื่อเปรียบเทียบ ขนาดกระสุน .380 กับ 9 มม. แบบนี้แล้วจะเห็นได้เลยว่า ขนาดกระสุน 9 มม. มีข้อได้เปรียบกว่ามาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานและความชอบของแต่ละบุคคล
เรียงขนาดของกระสุนปืนพกทุกแบบ มีกี่ประเภท?
การเรียงขนาดกระสุน เรามักจะเรียงหรือแบ่งออกตามเส้นผ่าศูนย์กลางของหัวกระสุนปืนหรือปลอกกระสุน รวมไปถึงการแบ่งตามความยาวของปลอกกระสุนก็ได้เช่นเดียวกัน เรียงขนาดกระสุนโดยทั่วไปแล้วหน่วยที่ใช้เรียกกระสุนในแต่ละพื้นที่ก็จะไม่เหมือนกัน ทั้งเรียกเป็น มิลลิเมตร และนิ้ว ยกตัวอย่างเช่น
- กระสุน .38 Special มีต้นกำเนิดในอเมริกา หน่วยจึงเรียกเป็นนิ้ว
- ขนาดกระสุน 9 มม. มีต้นกำเนิดในยุโรป หน่วยจึงเรียกเป็นมิลลิเมตร
โดยทั่วไปแล้ว การเรียงขนาดกระสุนปืนพก ขนาดกระสุน สามารถเรียงได้ดังนี้
- กระสุน 9 มม.
- กระสุน .22
- กระสุน .38
- กระสุน .357 MAGNUM
- กระสุน .380 และ กระสุน .38 SPECIAL
- กระสุน .45 ACP
- กระสุน .44 MAGNUM
ขนาดของกระสุนไรเฟิล แบ่งออกได้เป็นกี่แบบ และมีประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไร?
ขนาดกระสุนไรเฟิล สามารถแบ่งออกได้เป็น ขนาด ตามที่ได้รับความนิยม เรียงขนาดกระสุน และจะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ขนาดกระสุนไรเฟิล .22LR
น้ำหนักกระสุน : 30-40 กรัม
ความเร็ว : 1200-1600 ฟุต/วินาที
พลังงาน : 140-160 J
- ขนาดกระสุนไรเฟิล .30 ปืนสั้น
น้ำหนักกระสุน : 110 กรัม
ความเร็ว : 2,000 ฟุต/วินาที
พลังงาน: 1300 J
- .300 บีแอลเค
น้ำหนักกระสุน : 125 กรัม
ความเร็ว : 2200 ฟุต/วินาที
พลังงาน: 1360 J
- 62×39มม
น้ำหนักกระสุน : 123 กรัม
ความเร็ว : 2400 ฟุต/วินาที
พลังงาน : 2180 J
- 56×45 มม. หรือ .223
น้ำหนักกระสุน : 55-62 กรัม
ความเร็ว : 3100 ฟุต/วินาที
พลังงาน : 1770 J
- 62×51 มม. หรือ .308
น้ำหนักกระสุน : 147-175 กรัม
ความเร็ว : 2600-2700 ฟุต/วินาที
พลังงาน : 3300-3500 J
- 62×54 มม.
น้ำหนักกระสุน : 150-181 กรัม
ความเร็ว : 2500-2800 ฟุต/วินาที
พลังงาน : 3600 J
และนี่ก็เป็น ขนาดกระสุนไรเฟิล ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเรียงขนาดกระสุน สำหรับขนาดกระสุนแต่ละแบบ จะมีความแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องของลักษณะ การใช้งาน เทคนิคการใช้ปืนแต่ละรูปแบบ ความเร็ว ความแรง เพราะฉะนั้น การเลือกกระสุนปืนให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างยิ่ง
สนามยิงปืนพัทยาBATTLEMOUSE PATTAYA สนามยิงปืนที่ทันสมัยที่สุดในพัทยา
สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามโกคาร์ท สนามแข่งรถ มาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย