Pattern 1853 Enfield ปืนที่อยู่คู่ชัยชนะของจักรวรรดิอังกฤษ

Pattern 1853 Enfield

Pattern 1853 Enfield หนึ่งในปืนโบราณที่เรียกได้ว่าเป็นปืนที่แทบจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเนื่องจาก ปืนPattern 1853 Enfield นั้นเป็นปืนที่กองทัพอังกฤษใช้ในการสู้รบจนทำให้อังกฤษสามารถครอบครองดินแดนต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก นอกจากยุทธศาสตร์ทหารที่จะต้องดีเยี่ยมแล้ว อาวุธที่ทางกองทัพจัดสรรให้กับทหารใช้ในการรบจึงสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสุดยอดปืนในตำนานกระบอกนี้มากยิ่งขึ้นผ่านบทความที่เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ในวันนี้

ประวัติ Pattern 1853 Enfield กับสงครามนับครั้งไม่ถ้วน

Pattern 1853 Enfield

จักรวรรดิอังกฤษนับว่าเป็นจักรวรรดิที่สามารถยึดครองดินแดนได้มากที่สุดในโลก โดยสามารถครองดินแดนตั้งแต่ตะวันตกไปจนถึงตะวันออก จนได้สมญานามว่า “อาณาจักรที่พระอาทิตย์ไม่มีวันตก” ซึ่งในยุคก่อนปี 1853 ทางกองทัพอังกฤษใช้ ปืนคาบศิลา ในการรบกระทั่งในปี 1853 Royal Small Arms Factory ได้พัฒนาปืนรุ่นใหม่ออกมาพร้อมตั้งชื่อว่าPattern 1853 Enfield ปืนไรเฟิลและกลายมาเป็นปืนที่เข้าร่วมสงครามกับกองทัพอังกฤษหลายต่อหลายครั้ง

ปืนPattern 1853 Enfield Rifle ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในสงครามไครเมีย (Crimean War ระหว่าง ค.ศ. 1853 – ค.ศ. 1856) ซึ่งเป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิรัสเซียฝ่ายหนึ่ง กับพันธมิตรอันประกอบด้วยจักรวรรดิฝรั่งเศส จักรวรรดิอังกฤษ จักรวรรดิออตโตมัน และราชอาณาจักรซาร์ดิเนียอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งสงครามในครั้งนี้มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ในเรื่องการดูแลคริสต์ศาสนานิกชนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของออตโตมัน (ประเทศทูร์เคีย, ตุรกี) และสงครามไครเมียนับว่าเป็นสงครามแรกที่กองทัพใช้ยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ มาใช้ในการรบทั้ง เรือกลไฟ, ปืนไรเฟิล และ กระสุดชนิดใหม่ เป็นต้น

ลักษณะของ ปืน Pattern 1853 ปืนที่นำชัยมาสู่อังกฤษ

ปืนPattern 1853 Enfield นอกจากจะถูกใช้ในการทำสงครามหลายต่อหลายครั้งแล้ว เช่นสงครามไครเมีย, Filibuster War หรือ กบฏอินเดีย ค.ศ. 1857 เป็นต้น และที่สำคัญ ปืนEnfield Pattern 1853 rifle-musket ยังเป็นปืนที่นำชัยชนะมาสู่อังกฤษเลยก็ว่าได้ โดยเพจ Facebook ป.ปืน ได้อธิบายลักษณะของปืนรุ่นนี้ไว้ว่า “ลำกล้องยาว 39 นิ้ว เกลียวลำกล้องเวียนขวามีอัตราเวียน 1:78 นิ้ว พานท้ายไม่มีรองลำกล้องตลอดความยาวของปืน รัดด้วย three metal bands ขนาดปากลำกล้อง .577 นิ้ว ใช้กระสุนแบบ Boxer Minié ซึ่งมีน้ำหนัก 530 เกรนขนาด .55 นิ้ว ซึ่งใช้ดินปืนน้ำหนัก 2+1⁄2 drams,หรือเท่ากับ 68 เกรน ในการยิงแต่ล่ะครับสามารถสร้างความเร็วปากลำกล้องได้ 850 – 900 ฟุต(259–274ม.) ต่อวินาที” ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปืนคาบศิลาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคนั้นก็นับว่าเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

สนามยิงปืนพัทยาBATTLEMOUSE PATTAYA สนามยิงปืนที่ทันสมัยที่สุดในพัทยา

สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามโกคาร์ท สนามแข่งรถ มาตรฐานสากลแห่งแรกในประเทศไทย