เครื่องบินF-16ผลิตโดยบริษัท GENERAL DYNAMIC โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “FIGHTING FALCON” หรือในหมู่นักบินมักจะเรียกว่า ‘VIPER’ ครั้งนี้มานำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับการจำแนก เครื่องบินเอฟ 16 ในเบื้องต้น อาจเป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้ประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่
มาดูวิธีการจำแนก เครื่องบินเอฟ 16 ตั้งรุ่นแรกจนปัจจุบัน
เครื่องบินเอฟ 16 ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบันนี้จะใช้ตัวอักษรกำกับเรียงกัน คือ รุ่น A, B, C, D, E, F สำหรับอักษรอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมา เช่น F-16I หรือ F-16IQ นั้นเป็นรุ่นเฉพาะ ไม่ใช่รุ่นมาตรฐาน ส่วนการแยกความแตกต่างลำดับแรกคือต้องแยกแยะเครื่องบิน F-16 แบบที่นั่งเดียวกับ 2 ที่นั่งออกจากกันก่อน
ความแตกต่างระหว่างแบบที่นั่งเดียว กับ 2 ที่นั่ง คือ แบบที่นั่งเดียวเป็นเครื่องบินรบ ส่วนแบบ 2 ที่นั่งเป็นเครื่องบินฝึก และจะสังเกตได้ว่าในการสั่งซื้อเครื่องบิน F-16 ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม จะสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 2 ที่นั่ง น้อยกว่าเครื่องบินรุ่นที่นั่งเดียว ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเป็นเครื่องบินฝึกนั่นเอง
ถ้าหากจะแยกแยะรุ่นต่าง ๆ ด้วยสายตาก็คงไม่ยาก แต่หากแยกแยะตามตัวอักษรกำกับรุ่นก็อาจต้องทำความเข้าใจสักเล็กน้อย กล่าวคือเครื่องที่เป็นแบบที่นั่งเดียวคือ รุ่น A, C หรือ E ส่วน รุ่นแบบ 2 ที่นั่งคือ รุ่น B, D และรุ่น F ซึ่งถ้าหากเราจับกลุ่มกันแล้วก็จะสามารถอธิบายได้ในอีกรูปแบบหนึ่งคือ ปัจจุบันมีเครื่องบินขับไล่ F-16 แค่ 3 ยุคเท่านั้น ดังนี้
• ยุคที่ 1 คือรุ่น A และ B
• ยุคที่ 2 คือรุ่น C และ D
• ยุคที่ 3 คือรุ่น E และ F
นอกจากนี้แต่ละรุ่นพื้นฐานของเครื่องบินเอฟ 16 ก็ถูกแบ่งย่อยออกมาเป็นบล็อกต่าง ๆ อีกด้วย และเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น อธิบายได้ดังนี้
• ยุคที่ 1 คือ รุ่น A และ B ได้แก่ BLOCK 1, BLOCK 5, BLOCK 10, BLOCK 15, BLOCK 15 OCU และ BLOCK 20
• ยุคที่ 2 คือ รุ่น C และ D ได้แก่ BLOCK 25, BLOCK 30, BLOCK 32, BLOCK 40, BLOCK 42, BLOCK 50, BLOCK 52 และ BLOCK 52 +
• ยุคที่ 3 คือ รุ่น E/F ได้แก่ BLOCK 60 และมากกว่านี้
ที่กล่าวข้างต้นก็คือการแยกแยะหลัก ๆ ส่วนรหัสที่ใช้เรียกกันนั้นต้องเทียบเคียงจากรุ่นและบล็อกเหล่านี้ อย่างเช่นเครื่องบิน F-16 ที่ไทยใช้อยู่คือ รุ่น A BLOCK 15 และการเรียกชื่อนั้นจะไม่มีการข้ามรุ่นและข้ามบล็อก โดยปกติแล้ว F-16 รุ่นใหม่อย่างรุ่น E/F ย่อมต้องทันสมัยกว่ารุ่นเก่าอย่าง A/B หรือ C/D หากบล็อกเล็กมาก ๆ ก็ย่อมดีกว่าเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น F-16A BLOCK 15 ต้องเก่าและด้อยกว่า F-16C BLOCK 40 และ F-16C BLOCK 40 จะไม่ทันสมัยเท่า F-16C BLOCK 52 นั่นเอง
คราวนี้ก็มาถึง F-16 รุ่นนอกเหนือจากรุ่นมาตรฐาน A, B, C, D, E และ F ซึ่งจะแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวและคุณสมบัติที่แตกต่างไปจากรุ่นมาตรฐาน กล่าวคือ F-16 รุ่นพิเศษเหล่านี้จะถูกเพิ่มหรือลดสเปกลงไปจากรุ่นมาตรฐาน ตัวอย่างเช่น F-16N เป็นเครื่องบินในกองทัพเรือสหรัฐก็คือ F-16C BLOCK 30 ที่ติดตั้งอุปกรณ์ลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เพิ่มเติมแตกต่างไปจาก F-16C BLOCK 30 โดยทั่วไป
F-16I เป็นเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศอิสราเอล ก็คือเครื่องบิน F-16 D BLOCK 52 ที่ใส่ครอบสันหลังสำหรับช่องสื่อสารและควบคุมการบิน รวมทั้งติดตั้งถังเชื้อเพลิงแนบข้างลำตัว (CONFORMAL FUEL TANKS) เพิ่มเข้าไป และ F-16IQ เป็นเครื่องบินสำหรับกองทัพอิรัก ก็คือเครื่องบิน F-16C/D BLOCK 52 แต่ลดสเปคลง
รายละเอียดยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีรหัสรุ่นอื่น ๆ ที่คุ้นกัน หลัก ๆ ก็คือ F-16 MLU MID LIFE UPDATE เป็นชื่อเรียกของเครื่องบิน F-16 A หรือ B ในบล็อกแรก ๆ หรือบล็อก 1-15 ที่ผ่านกระบวนการการยืดอายุการใช้งาน ซึ่งภายหลังการอัปเดตแล้วเครื่องบินเอฟ 16 เหล่านั้นจะเปลี่ยนการเรียกจากเดิมมาเป็น F-16MLU, F-16ADF หรือ AIR DEFENSE FIGHTER เป็นเครื่องบินสำหรับกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐ ฯ ที่มีหน้าที่ดูแลผืนฟ้าภายในประเทศสหรัฐ ฯ ก็คือเครื่องบิน F-16 BLOCK 15 OCU ที่นำมาติดตั้งอุปกรณ์ตามมาตรฐาน ADF
อ่านบทความอื่น ๆ >> ระเบิดสุญญากาศ อาวุธต้องห้ามที่มีพลังทำลายล้างสูง
สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ SA-Game คาสิโนออนไลน์ บาคาร่า Casino online พร้อมเปิดบริการพนันออนไลน์เต็มรูปแบบครบวงจรที่สุด ลองเลย !